สัญญานมะเร็งในร่างกาย
=> มีเลือดหรือสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย เช่น มีตกขาวมากเกินไป
=> มีก้อนหรือตุ่มโตเร็วผิดปกติ เกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย
=> มีแผลเรื้อรังไม่หายภายใน 1 – 2 สัปดาห์ หลังจากการดูแลตนเองในเบื้องตัน
=> มีการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ผิดปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิม
=> เสียงแหบ ไอเรื้อรังหรือ ไอเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด
=> กลืนอาหารลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
=> มีต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้ มักจะแข็ง ไม่เจ็บ และโตขึ้นเรื่อยๆ
=> ไฝ ปาน หูด ที่โตเร็วผิดปกติ หรือ เป็นแผลแตก
=> หายใจ หรือ มีกลิ่นปากรุนแรงจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
=> เลือดกำเดาออกเรื้อรัง มักออกเพียงข้างเดียว (อาจออกทั้งสองข้างได้)
=> มีเสมหะ น้ำลาย หรือ เสลดปนเลือดบ่อย
=> ท้องผูก สลับท้องสีย โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
=> มีเลือดออกทางช่องคลอดหรือมีประจำเดือนผิดปกติ ทั้งปกติหรือวัยทอง
=> มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน
=> ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น อึดอัดท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
=> มีไข้ต่ำๆหรือสูงบ่อยๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้
=> มีจ้ำห้อเลือดง่าย หรือ มีจุดแดงคล้ายไข้เลือดออกตามผิวหนังบ่อย
=> ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง หรือ แขน/ขาอ่อนแรง หรือ ชักโดยไม่เคยชักมาก่อน
=> ปวดหลังเรื้อรัง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อาจร่วมกับ แขน/ขาอ่อนแรง
=> มีก้อนหรือตุ่มโตเร็วผิดปกติ เกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย
=> มีแผลเรื้อรังไม่หายภายใน 1 – 2 สัปดาห์ หลังจากการดูแลตนเองในเบื้องตัน
=> มีการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ผิดปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิม
=> เสียงแหบ ไอเรื้อรังหรือ ไอเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด
=> กลืนอาหารลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
=> มีต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้ มักจะแข็ง ไม่เจ็บ และโตขึ้นเรื่อยๆ
=> ไฝ ปาน หูด ที่โตเร็วผิดปกติ หรือ เป็นแผลแตก
=> หายใจ หรือ มีกลิ่นปากรุนแรงจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
=> เลือดกำเดาออกเรื้อรัง มักออกเพียงข้างเดียว (อาจออกทั้งสองข้างได้)
=> มีเสมหะ น้ำลาย หรือ เสลดปนเลือดบ่อย
=> ท้องผูก สลับท้องสีย โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
=> มีเลือดออกทางช่องคลอดหรือมีประจำเดือนผิดปกติ ทั้งปกติหรือวัยทอง
=> มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน
=> ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น อึดอัดท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
=> มีไข้ต่ำๆหรือสูงบ่อยๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้
=> มีจ้ำห้อเลือดง่าย หรือ มีจุดแดงคล้ายไข้เลือดออกตามผิวหนังบ่อย
=> ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง หรือ แขน/ขาอ่อนแรง หรือ ชักโดยไม่เคยชักมาก่อน
=> ปวดหลังเรื้อรัง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อาจร่วมกับ แขน/ขาอ่อนแรง
โรคมะเร็ง (Cancer) คือ โรคซึ่งเกิดมีเซลล์ผิดปกติในร่างกาย และมีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติจนร่างกายควบคุมไม่ได้ และกลายเป็นก้อนมะเร็งซึ่งสามารถบุกรุก ลุกลามและแพร่กระจายได้ทั่วร่างกายส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆ เหล่านั้นล้มเหลวไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบในอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปทั้งชายและหญิง
+ 10 ลำดับแรกของผู้ชาย ได้แก่ โรคมะเร็ง ตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก ต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือดขาว กระเพาะปัสสาวะ ช่องปาก กระเพาะอาหาร และหลอดอาหาร
+ 10 ลำดับแรกของผู้หญิง ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม ปากมดลูก ตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ รังไข่ เม็ดเลือดขาว ช่องปาก ต่อมไทรอยด์ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
+ 10 ลำดับแรกของผู้ชาย ได้แก่ โรคมะเร็ง ตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก ต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือดขาว กระเพาะปัสสาวะ ช่องปาก กระเพาะอาหาร และหลอดอาหาร
+ 10 ลำดับแรกของผู้หญิง ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม ปากมดลูก ตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ รังไข่ เม็ดเลือดขาว ช่องปาก ต่อมไทรอยด์ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ความแตกต่างของโรคมะเร็งและเนื้องอก
โรคเนื้องอก ได้แก่ มีก้อนเนื้อผิดปกติ แต่โตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะข้างเคียง เพียงกดหรือเบียดเมื่อก้อนโตขึ้น ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสโลหิตและน้ำเหลือง สามารถรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด
โรคมะเร็ง จะเจริญเติบโตเร็วลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เข้าต่อมน้ำเหลือง และแพร่กระจายเข้าหลอดเลือด/ กระแสเลือด และหลอดน้ำเหลือง/กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด โรคมะเร็งเป็นโรคเรื้อรัง รุนแรง การรักษาจะซับซ้อนและต้องต่อเนื่อง
โรคมะเร็ง จะเจริญเติบโตเร็วลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เข้าต่อมน้ำเหลือง และแพร่กระจายเข้าหลอดเลือด/ กระแสเลือด และหลอดน้ำเหลือง/กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด โรคมะเร็งเป็นโรคเรื้อรัง รุนแรง การรักษาจะซับซ้อนและต้องต่อเนื่อง
สาเหตุของโรคมะเร็ง
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งอยู่หลายประการ ดังนี้
1. สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย
1.1 สารเคมีบางชนิด เช่น สารเคมีในควันบุหรี่ และเขม่ารถยนต์ สารพิษจากเชื้อรา สารพิษที่เกิดจากเนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอด จนไหม้เกรียม
สีย้อมผ้า สารเคมีบางชนิดที่เกิดจากขบวนการทางอุตสาหกรรม
1.2 รังสีต่างๆ รวมทั้งรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด
1.3 การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น
+ ไวรัสตับอักเสบ ชนิด บี มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งตับ
+ HPV อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
+ ไวรัส (Epstein Barr Virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งโพรงหลังจมูก
+ เชื้อ Helicobacter Pylori มีความสัมพันธ์กับมะเร็งกระเพาะอาหาร
1.4 พยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ตับ มีความสัมพันธ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
2. สาเหตุภายในร่างกาย เช่น กรรมพันธ์ ขาดฮอร์โมน ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง การระคายเคืองซ้ำๆ ฯลฯ
1. สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย
1.1 สารเคมีบางชนิด เช่น สารเคมีในควันบุหรี่ และเขม่ารถยนต์ สารพิษจากเชื้อรา สารพิษที่เกิดจากเนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอด จนไหม้เกรียม
สีย้อมผ้า สารเคมีบางชนิดที่เกิดจากขบวนการทางอุตสาหกรรม
1.2 รังสีต่างๆ รวมทั้งรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด
1.3 การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น
+ ไวรัสตับอักเสบ ชนิด บี มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งตับ
+ HPV อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
+ ไวรัส (Epstein Barr Virus) มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งโพรงหลังจมูก
+ เชื้อ Helicobacter Pylori มีความสัมพันธ์กับมะเร็งกระเพาะอาหาร
1.4 พยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ตับ มีความสัมพันธ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
2. สาเหตุภายในร่างกาย เช่น กรรมพันธ์ ขาดฮอร์โมน ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง การระคายเคืองซ้ำๆ ฯลฯ
ระยะของโรคมะเร็ง
ระยะของมะเร็งมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 – 4 ไม่รวมระยะศูนย์ (0) ซึ่งยังไม่จัดเป็นโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เพียงเซลล์มีลักษณะเป็นมะเร็ง แต่ยังไม่มีการรุกรานเข้าเนื้อเยื่อข้างเคียง
ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ/แผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม
ระยะที่ 2 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามภายในเนื้อเยื่อ/อวัยวะ
ระยะที่ 3 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เป็นมะเร็ง
ระยะที่ 4 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดโตมาก และ/หรือ ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะข้างเคียง จนทะลุ และ/หรือ เข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนมะเร็ง โดยพบต่อมน้ำเหลืองโตคลำได้ และ/หรือ มีหลากหลายต่อม และ/หรือ แพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต และ/หรือ หลอดน้ำเหลือง/กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ในช่องอก และ/หรือ ต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อ/แผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม
ระยะที่ 2 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามภายในเนื้อเยื่อ/อวัยวะ
ระยะที่ 3 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เป็นมะเร็ง
ระยะที่ 4 : ก้อน/แผลมะเร็งขนาดโตมาก และ/หรือ ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะข้างเคียง จนทะลุ และ/หรือ เข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนมะเร็ง โดยพบต่อมน้ำเหลืองโตคลำได้ และ/หรือ มีหลากหลายต่อม และ/หรือ แพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต และ/หรือ หลอดน้ำเหลือง/กระแสน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ในช่องอก และ/หรือ ต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
กลไกการเกิดโรคมะเร็งในร่างกาย..แพทย์ทางเลือก
เซลล์มะเร็งสามารถจำแนกได้จากลักษณะดังนี้
•ไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ได้ และเซลล์จะไม่เจริญตามขั้นตอนปกติ
•เซลล์เหล่านั้นจะไปรบกวนเซลล์ปกติที่อยู่ใกล้เคียงทั้งทางด้านกายภาพและชีวภาพ
•แบ่งตัว และรบกวนระบบเผาผลาญและสร้างพลังงานของร่างกาย
•สามารถใช้ออกซิเจนในระดับต่ำกว่าเซลล์ปกติ
•ต้องการใช้น้ำตาลกลูโคสเพื่อเป็นแหล่งพลังงานมากกว่าเซลล์ปกติ
•สร้างกรดแลคติคขึ้นภายในเซลล์สูงผิดปกติ และปล่อยกรดออกมา ทำให้เซลล์ตับต้องทำหน้าที่เปลี่ยนกรดแลคติคให้เป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งต้องสูญเสียพลังงานไปมาก ด้วยเหตุนี้เซลล์มะเร็ง จึงถูกเรียกอีกอย่างว่าเป็นพวก “พยาธิของระบบเผาผลาญ” (metabolic parasites) เมื่อตับต้องสูญเสียพลังงานไปมากทำให้ตับอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ
•นอกจากนี้แล้ว เซลล์มะเร็งอาจจะสร้างโปรตีนที่เหมือนกับเซลล์ปกติมาเคลือบไว้บนตัวมัน เพื่อที่จะให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเห็นว่ามันเป็นเซลล์ปกติ นั่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เซลล์มะเร็งใช้ในการหลบเลี่ยงจากการถูกทำลายโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
•เมื่อเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้รอดพ้นจากระบบต่างๆของร่างกายได้แล้ว มันจะสร้างโปรตีนที่หนืดๆเหมือนกาวขึ้นมาห่อหุ้มตัวมันเองไว้ ทำให้เซลล์เหล่านี้มีเปลือกหุ้มที่หนากว่าเซลล์ปกติถึง 15 เท่า และซ่อนตัวอยู่ภายใต้เปลือกหุ้มนี้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหามันไม่เจอ มันจะล่องลอยไปตามที่ต่างๆในร่างกายเพื่อจะหาที่เหมาะๆเข้าไปยึดเกาะด้วยเปลือกเหนียวๆ ของมัน จากนั้นจะแบ่งตัวอย่างมโหฬารอีกครั้งจนได้เนื้อร้ายที่เรียกว่า “มะเร็ง”
เซลล์มะเร็งดูจะเป็นเซลล์ที่ฉลาด และมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างบนผิวเซลล์เปรียบเสมือน “เครื่องหมายการค้า” แม้ว่าตัวเซลล์จะถูกทำลายไปแล้ว ตัวเครื่องหมายการค้าของมันก็อาจจะยังหลงเหลืออยู่ คอยทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเกิดความสับสนโดยการล่อให้เซลล์ภูมิคุ้มกันมาเกาะตัวมัน และเปิดโอกาสให้เซลล์มะเร็งตัวอื่นรอดพ้นจากการถูกทำลาย เมื่อมีมากจนระบบภูมิคุ้มกันจะต้านทานไหว เซลล์มะเร็งเหล่านี้ก็จะเข้าไปรุกรานระบบภูมิคุ้มกันด้วย
•ไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ได้ และเซลล์จะไม่เจริญตามขั้นตอนปกติ
•เซลล์เหล่านั้นจะไปรบกวนเซลล์ปกติที่อยู่ใกล้เคียงทั้งทางด้านกายภาพและชีวภาพ
•แบ่งตัว และรบกวนระบบเผาผลาญและสร้างพลังงานของร่างกาย
•สามารถใช้ออกซิเจนในระดับต่ำกว่าเซลล์ปกติ
•ต้องการใช้น้ำตาลกลูโคสเพื่อเป็นแหล่งพลังงานมากกว่าเซลล์ปกติ
•สร้างกรดแลคติคขึ้นภายในเซลล์สูงผิดปกติ และปล่อยกรดออกมา ทำให้เซลล์ตับต้องทำหน้าที่เปลี่ยนกรดแลคติคให้เป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งต้องสูญเสียพลังงานไปมาก ด้วยเหตุนี้เซลล์มะเร็ง จึงถูกเรียกอีกอย่างว่าเป็นพวก “พยาธิของระบบเผาผลาญ” (metabolic parasites) เมื่อตับต้องสูญเสียพลังงานไปมากทำให้ตับอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ
•นอกจากนี้แล้ว เซลล์มะเร็งอาจจะสร้างโปรตีนที่เหมือนกับเซลล์ปกติมาเคลือบไว้บนตัวมัน เพื่อที่จะให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเห็นว่ามันเป็นเซลล์ปกติ นั่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เซลล์มะเร็งใช้ในการหลบเลี่ยงจากการถูกทำลายโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
•เมื่อเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้รอดพ้นจากระบบต่างๆของร่างกายได้แล้ว มันจะสร้างโปรตีนที่หนืดๆเหมือนกาวขึ้นมาห่อหุ้มตัวมันเองไว้ ทำให้เซลล์เหล่านี้มีเปลือกหุ้มที่หนากว่าเซลล์ปกติถึง 15 เท่า และซ่อนตัวอยู่ภายใต้เปลือกหุ้มนี้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหามันไม่เจอ มันจะล่องลอยไปตามที่ต่างๆในร่างกายเพื่อจะหาที่เหมาะๆเข้าไปยึดเกาะด้วยเปลือกเหนียวๆ ของมัน จากนั้นจะแบ่งตัวอย่างมโหฬารอีกครั้งจนได้เนื้อร้ายที่เรียกว่า “มะเร็ง”
เซลล์มะเร็งดูจะเป็นเซลล์ที่ฉลาด และมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างบนผิวเซลล์เปรียบเสมือน “เครื่องหมายการค้า” แม้ว่าตัวเซลล์จะถูกทำลายไปแล้ว ตัวเครื่องหมายการค้าของมันก็อาจจะยังหลงเหลืออยู่ คอยทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเกิดความสับสนโดยการล่อให้เซลล์ภูมิคุ้มกันมาเกาะตัวมัน และเปิดโอกาสให้เซลล์มะเร็งตัวอื่นรอดพ้นจากการถูกทำลาย เมื่อมีมากจนระบบภูมิคุ้มกันจะต้านทานไหว เซลล์มะเร็งเหล่านี้ก็จะเข้าไปรุกรานระบบภูมิคุ้มกันด้วย
การป้องกันการเกิดมะเร็งในร่างกาย
กลไกการเกิดโรคมะเร็งนั้นมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว 70 % ซึ่งหมายความว่าเราป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งได้ 70 % แต่ต้องมีวิธีการเป็นระบบ และถ้าเกิดเรามียีนมะเร็งอยู่ในตัวอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะมะเร็งได้ การหาแนวทางในการรักษาโรคมะเร็งแบบบูรณาการ คือ การใช้ทุกวิถีทางให้ได้รับการรักษาเพื่อประโยชน์สูงสุดและมีโอกาสหายเท่าที่จะมากได้ การใช้เอ็นไซม์เพื่อการบำบัดอย่างเป็นระบบ เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันและรักษาได้ในขณะเดียวกัน
กลไกการเกิดโรคมะเร็งนั้นมีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว 70 % ซึ่งหมายความว่าเราป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งได้ 70 % แต่ต้องมีวิธีการเป็นระบบ และถ้าเกิดเรามียีนมะเร็งอยู่ในตัวอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะมะเร็งได้ การหาแนวทางในการรักษาโรคมะเร็งแบบบูรณาการ คือ การใช้ทุกวิถีทางให้ได้รับการรักษาเพื่อประโยชน์สูงสุดและมีโอกาสหายเท่าที่จะมากได้ การใช้เอ็นไซม์เพื่อการบำบัดอย่างเป็นระบบ เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันและรักษาได้ในขณะเดียวกัน
ศาสตร์ "เอนไซม์บำบัด" ก็เป็นอีกทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายสาเหตุของการเกิดโรคได้อย่างกว้างขวาง จนมีคำกล่าวว่าเอ็นไซม์คือ “กุญแจแห่งชีวิต” เพราะการเกิดโรคไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน และสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการออกกำลังกายทุกรูปแบบ ผู้ที่อดอาหารและชอบทานอาหารเร่งด่วน ผู้ที่มีความเครียด และการมีวิถีชีวิตแบบผิดๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนนำไปสู่ภาวะพร่องเอ็นไซม์ หรือทำให้ระดับเอ็นไซม์ในร่างกายเสียสมดุลได้ และแม้สิ่งมีชีวิตจะมีความสามารถในการสังเคราะห์เอ็นไซม์ได้เอง แต่ด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัวในปัจจุบัน การค้นหา“ทางเลือก” ภาวะก่อเกิดมะเร็งในร่างกาย สามารถใช้เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติก ช่วยป้องกันและดูแลร่างกายได้อีกทางหนึ่ง
ประโยชน์ของเอนไซม์จากจุลินทรีย์"โปรไบโอติก"
+ ช่วยทำให้อาการย่อยอาหารไม่ดี เช่น เรอ มีแก๊ส จุกเสียด วิงเวียน ท้องผูก ดีขึ้น
+ ช่วยให้ความรู้สึกเหนื่อยหลังทานอาหารหมดไป
+ ช่วยกำจัดสารพิษจากเลือดและอวัยวะอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออายุมากขึ้น
+ ช่วยในการสลายพิษ (detoxify)หมายถึง การทำลายหรือต่อต้านพิษในร่างกายเรา
+ ช่วยขจัดสารพิษและบำรุงร่างกายไปพร้อมๆกันโดยไม่มีผลข้างเคียง
+ ช่วยให้รู้สึกสบาย มีพลังงาน กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ว่องไว
+ ช่วยเรื่องสมองและความจำ คิดไว ไม่หลงลืมและป้องกันอัลไซเมอร์
+ ช่วยชะลอวัย ทั้งหน้าตาและผิวพรรณ
+ ช่วยทำให้เลือดบริสุทธิ์ โดยการย่อยสลายโปรตีนเศษของเซลล์และสารพิษในกระแสเลือด จนร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้
+ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
+ การทานเอนไซม์พร้อมกับอาหารจะช่วยให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น
+ ช่วยทำให้อาการย่อยอาหารไม่ดี เช่น เรอ มีแก๊ส จุกเสียด วิงเวียน ท้องผูก ดีขึ้น
+ ช่วยให้ความรู้สึกเหนื่อยหลังทานอาหารหมดไป
+ ช่วยกำจัดสารพิษจากเลือดและอวัยวะอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออายุมากขึ้น
+ ช่วยในการสลายพิษ (detoxify)หมายถึง การทำลายหรือต่อต้านพิษในร่างกายเรา
+ ช่วยขจัดสารพิษและบำรุงร่างกายไปพร้อมๆกันโดยไม่มีผลข้างเคียง
+ ช่วยให้รู้สึกสบาย มีพลังงาน กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ว่องไว
+ ช่วยเรื่องสมองและความจำ คิดไว ไม่หลงลืมและป้องกันอัลไซเมอร์
+ ช่วยชะลอวัย ทั้งหน้าตาและผิวพรรณ
+ ช่วยทำให้เลือดบริสุทธิ์ โดยการย่อยสลายโปรตีนเศษของเซลล์และสารพิษในกระแสเลือด จนร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้
+ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
+ การทานเอนไซม์พร้อมกับอาหารจะช่วยให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น

แอนซิม่า (ANZIMA) เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติค
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
จุดเด่นของแอนซิม่า
-ช่วยบำรุงกระตุ้นการทำงานของตับ ล้างสารพิษในตับ เพราะตับคืออวัยวะที่สำคัญช่วยทำหน้าที่ในการช่วยขจัดสารพิษสะสมในร่างกาย
-ช่วยในการป้องกันและขจัดสารพิษที่ทำลายตับ เช่น แอลกอฮอล์ เชื้อรา ยาฆ่าแมลง
-ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้ กระเปร่า จากการกระตุ้นของเอนไซม์ให้เกิดการทำงานระดับเซลล์ ป้องกันตับอักเสบ และไขมันเกาะตับ
-ช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดนซ์ ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสไร้ริ้วรอย แก้อาการตัวเหลืองตาเหลือง
สรรพคุณ
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
-ช่วยบำรุงกระตุ้นการทำงานของตับ ล้างสารพิษในตับ เพราะตับคืออวัยวะที่สำคัญช่วยทำหน้าที่ในการช่วยขจัดสารพิษสะสมในร่างกาย
-ช่วยในการป้องกันและขจัดสารพิษที่ทำลายตับ เช่น แอลกอฮอล์ เชื้อรา ยาฆ่าแมลง
-ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้ กระเปร่า จากการกระตุ้นของเอนไซม์ให้เกิดการทำงานระดับเซลล์ ป้องกันตับอักเสบ และไขมันเกาะตับ
-ช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดนซ์ ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสไร้ริ้วรอย แก้อาการตัวเหลืองตาเหลือง
สรรพคุณ
- ช่วยขับล้างสารพิษ และลดการสะสมสารพิษในร่างกาย
- ลดการสะสมไขมันเนื้อในตับ
- ป้องกันตับและลดการสะสมสารพิษในตับ
- เสริมสร้างและกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ
- ดึงเศษซากเซลล์ตายออกจากกระแสเลือด
- บำรุงเซลล์ตับให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับตับและถุงน้ำดีให้กำจัดไขมันได้ดีขึ้น
- ดึงไขมันที่สะสมในระบบทางเดินอาหารและกระแสเลือด มาใช้เป็นพลังงาน
- การไหลเวียนของเลือดสะดวก พาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ร่างกายได้ทั่วถึง
- ผิวสดใสขึ้นลดการเกิดสิว•ปรับสมดุลองค์รวมร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ
|