การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อชีวีที่สมดุล

จะรู้ได้อย่างไร?..ว่าร่างกายขาดสมดุล
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การที่ ร่างกายเราขาดสมดุลหมายรวมถึง ความไม่สมดุล ระหว่าง “ร่างกาย” กับ “จิตใจ” ด้วย เพราะความไม่ สมดุลนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากจิตใจมากกว่า สาเหตุจากร่างกายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเครียด ที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิด ปกติกับร่างกายได้ง่าย หรือที่เรียกกันว่า “ใจป่วยกาย ก็ป่วย” เพราะร่างกายกับจิตใจนั้นสัมพันธ์กันเป็น หนึ่งเดียว ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างร่างกาย กับจิตใจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเรา ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อเราเจอปัญหาต่างๆ พร้อมๆ กัน ทำให้เกิด การสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว ของร่างกายก็จะ หลั่งฮอร์โมนต่างๆ ออกมาโดยอัตโนมัติ ทำให้ใจเต้น เร็ว หายใจเร็ว ความดันเพิ่ม ท้องอืด นํ้าตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น หรือเหงื่อออกมากขึ้น และหากความเครียดเหล่านี้ยังคงอยู่เรื้อรัง อาจเกิดโรคทางจิตใจ และร่างกายตามมา และยังมีอาการทางกายที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายเสียสมดุล เช่น การเป็นภูมิแพ้ เป็นแผล ร้อนใน เจ็บคอ หรือมีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังบ่อยๆ เป็นต้น โดยอาการเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะทำให้ร่างกาย สูญเสียความสามารถในการรักษา หรือปรับสมดุลด้วยตัวเอง กลายเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ตามมาเช่นกัน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การที่ ร่างกายเราขาดสมดุลหมายรวมถึง ความไม่สมดุล ระหว่าง “ร่างกาย” กับ “จิตใจ” ด้วย เพราะความไม่ สมดุลนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากจิตใจมากกว่า สาเหตุจากร่างกายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเครียด ที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิด ปกติกับร่างกายได้ง่าย หรือที่เรียกกันว่า “ใจป่วยกาย ก็ป่วย” เพราะร่างกายกับจิตใจนั้นสัมพันธ์กันเป็น หนึ่งเดียว ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างร่างกาย กับจิตใจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเรา ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อเราเจอปัญหาต่างๆ พร้อมๆ กัน ทำให้เกิด การสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว ของร่างกายก็จะ หลั่งฮอร์โมนต่างๆ ออกมาโดยอัตโนมัติ ทำให้ใจเต้น เร็ว หายใจเร็ว ความดันเพิ่ม ท้องอืด นํ้าตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น หรือเหงื่อออกมากขึ้น และหากความเครียดเหล่านี้ยังคงอยู่เรื้อรัง อาจเกิดโรคทางจิตใจ และร่างกายตามมา และยังมีอาการทางกายที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายเสียสมดุล เช่น การเป็นภูมิแพ้ เป็นแผล ร้อนใน เจ็บคอ หรือมีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังบ่อยๆ เป็นต้น โดยอาการเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะทำให้ร่างกาย สูญเสียความสามารถในการรักษา หรือปรับสมดุลด้วยตัวเอง กลายเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ตามมาเช่นกัน

วิธีการปรับสมดุล
เนื่องจากภาวะการขาดความสมดุลของร่างกายนั้นไม่ใช่ “โรค” เราจึงไม่ใช้คำว่า “การป้องกันและ รักษา” ถึงแม้อาจจะมีการใช้ยาในการรักษาบ้างก็ตาม แต่มีหลายรายเมื่อหมดฤทธิ์ยาอาการก็จะกลับมาเป็น เหมือนเดิมอีก หรือเป็นๆ หายๆ สร้างความทุกข์และรำคาญใจมาก ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับการรักษาแบบ ใหม่ ที่ไม่ต้องพึ่งพายาหรือสารเคมีใดๆ แต่ใช้วิธีการปรับสมดุลของร่างกายด้วยตัวเองนอกจากร่างกายเราจะปรับสมดุลโดย อัตโนมัติแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายขาดสมดุลตัวเราเองก็ควรช่วย ร่างกายเราเช่นกัน ซึ่งวิธีการปรับสมดุลทั้งจิตใจและร่างกายให้ดีขึ้น คือ
เนื่องจากภาวะการขาดความสมดุลของร่างกายนั้นไม่ใช่ “โรค” เราจึงไม่ใช้คำว่า “การป้องกันและ รักษา” ถึงแม้อาจจะมีการใช้ยาในการรักษาบ้างก็ตาม แต่มีหลายรายเมื่อหมดฤทธิ์ยาอาการก็จะกลับมาเป็น เหมือนเดิมอีก หรือเป็นๆ หายๆ สร้างความทุกข์และรำคาญใจมาก ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับการรักษาแบบ ใหม่ ที่ไม่ต้องพึ่งพายาหรือสารเคมีใดๆ แต่ใช้วิธีการปรับสมดุลของร่างกายด้วยตัวเองนอกจากร่างกายเราจะปรับสมดุลโดย อัตโนมัติแล้ว ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายขาดสมดุลตัวเราเองก็ควรช่วย ร่างกายเราเช่นกัน ซึ่งวิธีการปรับสมดุลทั้งจิตใจและร่างกายให้ดีขึ้น คือ
- ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทาน อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ต้อง รู้ทันร่างกาย เช่น หากร่างกายและอวัยวะภายในมีความร้อนมากเกินไป ก็เลือกทานอาหารที่มี ฤทธิ์เย็น เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ หลักๆ คือการทานอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อ ร่างกาย รวมทั้งดื่มนํ้าให้มากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการอดนอนทำให้เกิดการติดขัดของเมตาบอลิซึม ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญ ในร่างกายไม่ดี ฮอร์โมนทำงานไม่ปกติ เครียดง่าย และส่งผลต่อด้านอารมณ์และจิตใจได้
- เสริมสร้างจิตใจให้แข็ง แรง เริ่มต้นจากการผ่อนคลายจิตใจ หยุดพักหยุดคิดเรื่องเครียดต่างๆ รู้ทันจิต ของตัวเองเพื่อรับมือกับความเครียด และหาวิธีคลายเครียดด้วยตัวเอง
- คอยสังเกตดูแลเอาใจใส่ตัว เองทั้งร่างกายและจิตใจ ว่า อยู่ในภาวะสมดุลหรือไม่ ทำอะไรเกิน ไป หรือขาดไปบ้าง ให้ฟังเสียงของร่างกายและจิตใจ เพื่อจะได้รู้ว่าเราควรจะปรับตัวเองเพื่อให้ร่างกายและ จิตใจอยู่ในสภาวะสมดุลอย่างไร แม้ภาวะการขาดสมดุลจะไม่ใช่โรคภัยที่ร้ายแรง แต่ก็เป็นสาเหตุที่นำไปสู้การเกิดโรค ต่างๆ ดังนั้นไม่ควรละเลยการดูแลและคอยสังเกตตัวเองว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ร่างกายและ จิตใจเราขาดอะไร หรือมีอะไรที่เกินไปบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรปรับตัวเองให้ร่างกายและ จิตใจอยู่ในทางสายกลางหรือภาวะสมดุลอย่างไร



องค์ประกอบของสุขภาพองค์รวม
แยกออกเป็น
1. มิติทางกาย ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่ เกี่ยวข้องกับสภาพโดยทั่วไปทางกายของมนุษย์ ทั้งภายใน ภายนอก และรวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วย ทั้งนี้มิติทางกายจะยึดเอาความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกาย ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไร้ซึ่งโรคภัยเป็นสำคัญ โดยมีอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ สมรรถนะทางกาย ภาวะทางเศรษฐกิจที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อสภาวะสุขภาพดังกล่าวได้
2. มิติทางจิต ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจหรืออารมณ์ที่มีผลกับ สุขภาพโดยรวมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาวะอารมณ์ที่แจ่มใสร่าเริง ผ่อนคลายไม่ตึงเครียด รู้สึกมีความสุขและปลอดโปร่ง โดยที่มีหลักการจัดการกับสภาวะความเครียดไม่ให้เกิดวิกฤตทางอารมณ์เกิดขึ้น เป็นปัจจัยส่งผลต่อสภาวะสุขภาพจิตที่ดีได้
3. มิติทางสังคม ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาวะโดยทั่วไปทางสังคมที่มีผลกับ สุขภาพโดย รวมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพสังคมที่มีความผาสุกทั้งระดับครอบครัว สังคมและชุมชน โดยที่แต่ละระดับมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สมาชิกในสังคมนั้นๆ มีความเอื้ออาทรต่อกัน จัดระบบบริการจากภาครัฐที่มีความเสมอภาคกัน สิ่งเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่จะส่งผลต่อสภาวะสุขภาพทาง สังคมที่ดีได้
4. มิติทางปัญญาหรือทางจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่ เกี่ยวกับการมีความรู้ เฉลียวฉลาด รู้เท่าทันสิ่งต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไป ทั้งทางกาย จิตใจ และสังคม ทำให้เกิดแรงศรัทธาต่อตนเองและมีความหวังต่อความสำเร็จที่จะทำให้ตนเองมี ความผาสุกด้วยสัมมาชีพและเป็นปัจจัยส่งผลต่อสภาวะสุขภาพโดยรวมของมนุษย์ อย่างสมบูรณ์
แยกออกเป็น
1. มิติทางกาย ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่ เกี่ยวข้องกับสภาพโดยทั่วไปทางกายของมนุษย์ ทั้งภายใน ภายนอก และรวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วย ทั้งนี้มิติทางกายจะยึดเอาความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกาย ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไร้ซึ่งโรคภัยเป็นสำคัญ โดยมีอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ สมรรถนะทางกาย ภาวะทางเศรษฐกิจที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อสภาวะสุขภาพดังกล่าวได้
2. มิติทางจิต ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจหรืออารมณ์ที่มีผลกับ สุขภาพโดยรวมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาวะอารมณ์ที่แจ่มใสร่าเริง ผ่อนคลายไม่ตึงเครียด รู้สึกมีความสุขและปลอดโปร่ง โดยที่มีหลักการจัดการกับสภาวะความเครียดไม่ให้เกิดวิกฤตทางอารมณ์เกิดขึ้น เป็นปัจจัยส่งผลต่อสภาวะสุขภาพจิตที่ดีได้
3. มิติทางสังคม ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาวะโดยทั่วไปทางสังคมที่มีผลกับ สุขภาพโดย รวมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพสังคมที่มีความผาสุกทั้งระดับครอบครัว สังคมและชุมชน โดยที่แต่ละระดับมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สมาชิกในสังคมนั้นๆ มีความเอื้ออาทรต่อกัน จัดระบบบริการจากภาครัฐที่มีความเสมอภาคกัน สิ่งเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่จะส่งผลต่อสภาวะสุขภาพทาง สังคมที่ดีได้
4. มิติทางปัญญาหรือทางจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นมิติของสุขภาพที่ เกี่ยวกับการมีความรู้ เฉลียวฉลาด รู้เท่าทันสิ่งต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไป ทั้งทางกาย จิตใจ และสังคม ทำให้เกิดแรงศรัทธาต่อตนเองและมีความหวังต่อความสำเร็จที่จะทำให้ตนเองมี ความผาสุกด้วยสัมมาชีพและเป็นปัจจัยส่งผลต่อสภาวะสุขภาพโดยรวมของมนุษย์ อย่างสมบูรณ์

การสร้างดุลยภาพนั้น..จะมีสุขภาพดีหรือไม่?
ต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงแล้ว เราละเลยต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปหรือไม่? ด้วยสุขภาวะที่ สอดรับกับสภาพจิตที่ปลอดโปร่งผ่องใส มีจิตสาธารณะ เอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง และถือพร้อมด้วยปัญญาที่จะทำให้เกิดความสมบูรณ์อย่างที่สุด หลักธรรมะทางพระพุทธศาสนาที่ว่าด้วยไตรสิกขาและภาวนา 4
การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 4 มิติของเรานั้นจะไม่ขาดตกบกพร่อง แต่จะเป็นมนุษย์ที่มีความสุขที่น่าอิจฉามากคนหนึ่งเลยทีเดียว การให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพดีแบบภาพรวมทั้งชีวิตของมนุษย์ โดยไม่ได้เน้นที่การเจ็บป่วยเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันทั้งร่ายกาย จิตใจ สังคม และปัญญาหรือจิตวิญญาณ ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนั้นจะต้องสานสัมพันธ์และพึ่งพาอาศัยกันอย่างมี ดุลยภาพ
ต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงแล้ว เราละเลยต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปหรือไม่? ด้วยสุขภาวะที่ สอดรับกับสภาพจิตที่ปลอดโปร่งผ่องใส มีจิตสาธารณะ เอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง และถือพร้อมด้วยปัญญาที่จะทำให้เกิดความสมบูรณ์อย่างที่สุด หลักธรรมะทางพระพุทธศาสนาที่ว่าด้วยไตรสิกขาและภาวนา 4
การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 4 มิติของเรานั้นจะไม่ขาดตกบกพร่อง แต่จะเป็นมนุษย์ที่มีความสุขที่น่าอิจฉามากคนหนึ่งเลยทีเดียว การให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพดีแบบภาพรวมทั้งชีวิตของมนุษย์ โดยไม่ได้เน้นที่การเจ็บป่วยเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันทั้งร่ายกาย จิตใจ สังคม และปัญญาหรือจิตวิญญาณ ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนั้นจะต้องสานสัมพันธ์และพึ่งพาอาศัยกันอย่างมี ดุลยภาพ
นวัตกรรมใหม่ในการรักษาสุขภาพ ENZYME THERAPY INNOVATION
เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีจำนวนจำกัด หากคุณต้องการมีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดี ตัวคุณต้องรักษาระดับเอนไซน์ในร่างกายให้สมดุล กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่สุขภาพที่สมดุลนั้น ก็คือ เอนไซน์
เอนไซน์เปรียบเสมือนกุญแจแห่งชีวิตที่เสริมสร้าง ซ่อมแซม ต้านทานโรค และป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีจำนวนจำกัด หากคุณต้องการมีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดี ตัวคุณต้องรักษาระดับเอนไซน์ในร่างกายให้สมดุล กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่สุขภาพที่สมดุลนั้น ก็คือ เอนไซน์
เอนไซน์เปรียบเสมือนกุญแจแห่งชีวิตที่เสริมสร้าง ซ่อมแซม ต้านทานโรค และป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
สนับสนุนโดย...แอนซิม่า (Anzima) เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติค
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สอบถาม/สั่งซื้อ
|