โรคต้อกระจก (Cataract)
เป็นโรคตาที่เลนส์แก้วตา (Lens)เสื่อมสภาพจนมีความขุ่นมัวเกิดขึ้น ทำให้บดบังแสงที่จะผ่านเข้าไปในตา แสงจึงส่งผ่านไปยังประสาทตาไม่เต็มที่ ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนหรือมีอาการตามัวได้ แก้วตาประกอบด้วยน้ำร้อยละ 65 และโปรตีนร้อยละ 35 แก้วตาขุ่นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เช่น ได้รับออกซิเจนลดลง โซเดียมและแคลเซียมเพิ่มขึ้น โปแตสเซียม วิตามินซีและโปรตีนลดลง ความใสจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สูญเสียสภาพความโปร่งแสง หรือโปรตีนภายในเลนส์แก้วตาไม่สามารถละลายน้ำได้ จึงทำให้ขุ่น และมีแคลเซียมเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุให้เลนส์แข็งได้ในผู้สูงอายุ ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง ซึ่งเป็นความผิดปกติของตาที่พบได้มากที่สุด
อาการที่เกิด
+ ความสามารถในการมองเห็นลดลง ตาค่อยๆ มัวลงทีละน้อยเหมือนมีหมอกหรือกระจกฝ้ามาบัง
+ไม่มีอาการปวดตา ตาจะมัวหากอยู่ที่สว่างจ้า (รูม่านตาหด)
+ มองเห็นดีขึ้นเมื่ออยู่ในที่ร่ม
+ การหักเหของแสงในดวงตาผิดปกติทำให้มองเห็นภาพซ้อนเห็นภาพซ้อน ในตาข้างที่เป็น
+ มีอาการกลัวแสง (Photophobia) เวลามองแสงไฟจะเห็นเป็นวง
+ มองเห็นแสงไฟกระจาย โดยเฉพาะเวลาขณะขับรถในตอนกลางคืน
+ สายตาอาจสั้นลงในระยะแรกที่เป็นต้อกระจก เนื่องจากแก้วตามีความนูนเพิ่มขึ้น
+ ดวงตาเกิดภาวะเป็นฝ้าขาวบริเวณรูม่านตา
+ ตาขุ่นมัวโดยเฉพาะเมื่อเจอแสงจ้า แต่หากอยู่ในที่มืดสลัวจะมองเห็นชัดขึ้น
+ ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยๆ เวลาอ่านหนังสือต้องอาศัยแสงสว่างผิดปกติ
+ไม่มีอาการปวดตา ตาจะมัวหากอยู่ที่สว่างจ้า (รูม่านตาหด)
+ มองเห็นดีขึ้นเมื่ออยู่ในที่ร่ม
+ การหักเหของแสงในดวงตาผิดปกติทำให้มองเห็นภาพซ้อนเห็นภาพซ้อน ในตาข้างที่เป็น
+ มีอาการกลัวแสง (Photophobia) เวลามองแสงไฟจะเห็นเป็นวง
+ มองเห็นแสงไฟกระจาย โดยเฉพาะเวลาขณะขับรถในตอนกลางคืน
+ สายตาอาจสั้นลงในระยะแรกที่เป็นต้อกระจก เนื่องจากแก้วตามีความนูนเพิ่มขึ้น
+ ดวงตาเกิดภาวะเป็นฝ้าขาวบริเวณรูม่านตา
+ ตาขุ่นมัวโดยเฉพาะเมื่อเจอแสงจ้า แต่หากอยู่ในที่มืดสลัวจะมองเห็นชัดขึ้น
+ ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยๆ เวลาอ่านหนังสือต้องอาศัยแสงสว่างผิดปกติ
สาเหตุของการเกิดโรคต้อกระจก
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดต้อกระจกคือ อายุที่เพิ่มขึ้น พบว่าต้อกระจกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ช้าก็เร็ว แต่จะพบมากในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมตามวัย จากอุบัติเหตุ ความผิดปกติแต่กำเนิดหรือผลจากโรคที่ทำให้มีอาการตามมัว ได้รับสารพิษ เช่น ได้รับสเตียรอยด์ขนาดสูงนานๆ สารเคมีพวกอัลคาไลน์สะสมอยู่ในแก้วตา ร่างกายขาดน้ำ ท้องเสียเรื้อรัง มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในแก้วตา ตาบาดเจ็บจากแสงแดดจ้า แสงเอกซเรย์ โรคประจำตัวต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคไต โรคกระดูกและกล้ามเนื้อ ได้รับสารอาหารไม่พอโรคอ้วน หรือจากสาเหตุเหล่านี้ เช่น
+ เลนส์ตาจะขุ่นมัวและแข็ง อาจเริ่มเกิดได้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและพบมากในวัยสูงอายุ
+ การเกิดอุบัติเหตุ สัมผัสกับสารเคมี หรือได้รับการกระทบกระเทือนที่ส่งผลกับดวงตาอย่างรุนแรง
+ดวงตาติดเชื้อ โรคเบาหวาน แพ้อาหารหรือยาบางประเภท สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ตาขุ่นเร็วขึ้น
+ กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติตั้งแต่เกิด จากการติดเชื้อหรืออักเสบตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดโรคต้อกระจกก่อนวัย
+ การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตเข้าตาเป็นเวลานานๆ
+ โรคเกี่ยวกับตา เช่น ม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ
+ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
+ การเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาหรือดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนบ่อยๆ
+ การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
+ เลนส์ตาจะขุ่นมัวและแข็ง อาจเริ่มเกิดได้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและพบมากในวัยสูงอายุ
+ การเกิดอุบัติเหตุ สัมผัสกับสารเคมี หรือได้รับการกระทบกระเทือนที่ส่งผลกับดวงตาอย่างรุนแรง
+ดวงตาติดเชื้อ โรคเบาหวาน แพ้อาหารหรือยาบางประเภท สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ตาขุ่นเร็วขึ้น
+ กรรมพันธุ์หรือความผิดปกติตั้งแต่เกิด จากการติดเชื้อหรืออักเสบตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดโรคต้อกระจกก่อนวัย
+ การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตเข้าตาเป็นเวลานานๆ
+ โรคเกี่ยวกับตา เช่น ม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ
+ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
+ การเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาหรือดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนบ่อยๆ
+ การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
วิธีรักษา
ปัจจุบัน นิยมทำผ่าตัดใส่เลนส์เทียม (Intraocular lens; IOL) การทำแบบนี้หากสายตาสั้นมากไม่ต้องใส่เลนส์เทียม และมีการนำเอาคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เข้ามาช่วยในการสลายแก้วตาแล้วดูดออก เรียกการทำนี้ว่า Phacoemulsification การใส่แก้วตาเทียมช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น แต่ถ้าไม่ใส่แก้วตาเทียมจะต้องใส่เลนส์สัมผัสหรือแว่นตาซึ่งแว่นเลนส์นูนจะหนามากทำให้ปรับระยะทางได้ลำบาก
การดูแลหลังผ่าตัด
1)ภายหลังทำผ่าตัด ต้องใช้ผ้าปิดตา (Eye pad) และครอบที่ปิดตา (Eye shield) ข้างที่ผ่าตัด ต้องระมัดระวัง ไม่ก้มหน้า ไม่สั่นหน้า ไม่ไอหรือจากแรงๆ และไม่นอนตะแคงด้านที่ทำผ่าตัด
2) ปวดตา เช็ดตาข้างที่ทำผ่าตัด หยอดตาตามแผนการรักษาทุกวัน เช็ดหน้าแทนการล้างหน้า ระมัดระวังไม่ขยี้ตาหรือให้นิ้วแยงตา
3) ดูแลและปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัดอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น ต้อหิน ความดันลูกตาสูง การติดเชื้อ เลือดออก จอรับภาพบวมและแผลแยก
4) ถ้าออกนอกบ้านควรสวมแว่นตากันแดด ต้องมาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดตา ตาแดง หรือมีขี้ตามากให้พบแพทย์ก่อนนัดได้ แต่ถ้ามีอาการข้างเคียงต่อไปนี้ต้องรีบไปพบแพทย์
– ไม่สามารถมองเห็นเป็นปกติได้
– รู้สึกปวดตาตลอดเวลา
– มีอาการตาแดง เห็นแสงวาบเป็นระยะ
– รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน มีอาการปวดศีรษะและไอ
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น อวัยวะต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา ดวงตาเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานอย่างหนักมากในแต่ละวัน หากเกิดอาการเลนส์แก้วตาเสื่อม โรคต้อกระจก (Cataract) ก็มีโอกาสมาเยือนได้ ควรรีบทำการรักษาอย่างถูกต้องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะถ้าเลนส์ตาของเราขุ่นมัวขึ้นเรื่อยๆ ในบางรายอาจถึงขั้นตาบอดได้ การเอาใจใส่และดูแลสายตาให้มาก จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่สุด
2) ปวดตา เช็ดตาข้างที่ทำผ่าตัด หยอดตาตามแผนการรักษาทุกวัน เช็ดหน้าแทนการล้างหน้า ระมัดระวังไม่ขยี้ตาหรือให้นิ้วแยงตา
3) ดูแลและปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัดอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น ต้อหิน ความดันลูกตาสูง การติดเชื้อ เลือดออก จอรับภาพบวมและแผลแยก
4) ถ้าออกนอกบ้านควรสวมแว่นตากันแดด ต้องมาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดตา ตาแดง หรือมีขี้ตามากให้พบแพทย์ก่อนนัดได้ แต่ถ้ามีอาการข้างเคียงต่อไปนี้ต้องรีบไปพบแพทย์
– ไม่สามารถมองเห็นเป็นปกติได้
– รู้สึกปวดตาตลอดเวลา
– มีอาการตาแดง เห็นแสงวาบเป็นระยะ
– รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน มีอาการปวดศีรษะและไอ
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น อวัยวะต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา ดวงตาเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานอย่างหนักมากในแต่ละวัน หากเกิดอาการเลนส์แก้วตาเสื่อม โรคต้อกระจก (Cataract) ก็มีโอกาสมาเยือนได้ ควรรีบทำการรักษาอย่างถูกต้องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะถ้าเลนส์ตาของเราขุ่นมัวขึ้นเรื่อยๆ ในบางรายอาจถึงขั้นตาบอดได้ การเอาใจใส่และดูแลสายตาให้มาก จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่สุด
การดูแลสุขภาพดวงตา
+ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
+ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
+ พักสายตาเป็นระยะหากต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน
+ สวมแว่นกันแดดที่กรองแสงอัลตราไวโอเลต ไม่จ้องมองดวงอาทิตย์โดยตรง
+ หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา อย่าให้ดวงตาโดนกระแทก
+ ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพตาทุกปี
+ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
+ พักสายตาเป็นระยะหากต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน
+ สวมแว่นกันแดดที่กรองแสงอัลตราไวโอเลต ไม่จ้องมองดวงอาทิตย์โดยตรง
+ หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา อย่าให้ดวงตาโดนกระแทก
+ ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพตาทุกปี
เผยแพร่ข้อมูลและสนับสนุนโดย : ENBOOST เอนไซม์สมุนไพรบำรุงสมองและสายตา... 2 ใน 1 เดียว ”ฟื้นฟูความจำ เพิ่มกำลังสมอง ถนอมดวงตา” มีส่วนผสมของเอนไซม์..สมุนไพรและพฤกษเคมีจากธรรมชาติ
สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) คือ สารเคมีตามธรรมชาติที่พบในพืช เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ( เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ในคน เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, กระดูกพรุน, โรคปอด ไปจนถึงโรคมะเร็ง กลไกการทำงานของสารพฤกษเคมี ช่วยให้เอนไซม์บางกลุ่มทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งวิตามิน,กรดอะมิโน,สารสกัดที่มีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพต่อสมองและสายตา ให้ผลสูงสุด เห็นผลเร็ว และ ผลจะคงอยู่ได้ยาวนาน คือ ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ให้ออกซิเจนแก่สมอง ช่วยการทำงานของสารสื่อประสาท ช่วยเร่งการซ่อมแซมสมอง ช่วยเรื่องความจำ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ สายตาและการได้ยิน เพื่อบำรุงสมองและสายตา
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ :
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) คือ สารเคมีตามธรรมชาติที่พบในพืช เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ( เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ในคน เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, กระดูกพรุน, โรคปอด ไปจนถึงโรคมะเร็ง กลไกการทำงานของสารพฤกษเคมี ช่วยให้เอนไซม์บางกลุ่มทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งวิตามิน,กรดอะมิโน,สารสกัดที่มีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพต่อสมองและสายตา ให้ผลสูงสุด เห็นผลเร็ว และ ผลจะคงอยู่ได้ยาวนาน คือ ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ให้ออกซิเจนแก่สมอง ช่วยการทำงานของสารสื่อประสาท ช่วยเร่งการซ่อมแซมสมอง ช่วยเรื่องความจำ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ สายตาและการได้ยิน เพื่อบำรุงสมองและสายตา
สนใจสอบถาม/สั่งซื้อ :
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สอบถาม/เพิ่มเติม
|