โรคมะเร็งตับ
คุณมีอาการอย่างนี้หรือไม่?
1. คลื่นไส้บ่อย ๆ จนผิดปกติ เป็นสัญญาณแรก ๆ ของโรคมะเร็งตับ แสดงถึงภาวะที่มีสารพิษสะสมตกค้างอยู่ในร่างกายและขจัดสารพิษออกไปไม่ได้ 2. ปวดท้องด้านขวาผิดปกติ อาจเกิดอาการปวดท้องด้านขวาอย่างรุนแรงร่วมกับอาการสะอึกเรื้อรังu อาจพบอาการตับบวมโตและปวดบริเวณไหล่ขวา เพราะตับไปทับเส้นประสาทบริเวณกระบังลมที่เชื่อมโยงกับระบบประสาทบริเวณไหล่
3. อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร เพราะประสิทธิภาพในการทำงานของตับก็จะลดลง ร่างกายเผาผลาญได้ความอยากอาหารก็จะลดลงตาม
4.น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยกับการไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย
5. มีอาการคัน น่าจะเกิดจากน้ำดีในร่างกาย
6. อ่อนเพลียในระหว่างวัน หรือไม่มีแรงแม้แต่จะทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ควรรีบไปพบแพทย์
7. ตาเหลือง ตัวเหลือง เป็นอาการของดีซ่านซึ่งเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน เมื่อตับกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirubin)จากกระแสเลือดได้ไม่สมบูรณ์ จะเกิดการตกค้างและกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ
8. ตับโต ตับที่บวมโตมากกว่าปกติเป็นความผิดปกติ ต้องวินิจฉัยร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น เนื้องอก หรืออาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันอื่น ๆ
9. เป็นท้องมาน เกิดจากความผิดปกติในหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลืองทำให้มีของเหลวคั่งในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ
10. เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี โรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี ควรตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง และหมั่นดูแลสุขภาพอยู่เสมอ
3. อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร เพราะประสิทธิภาพในการทำงานของตับก็จะลดลง ร่างกายเผาผลาญได้ความอยากอาหารก็จะลดลงตาม
4.น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยกับการไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย
5. มีอาการคัน น่าจะเกิดจากน้ำดีในร่างกาย
6. อ่อนเพลียในระหว่างวัน หรือไม่มีแรงแม้แต่จะทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ควรรีบไปพบแพทย์
7. ตาเหลือง ตัวเหลือง เป็นอาการของดีซ่านซึ่งเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน เมื่อตับกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirubin)จากกระแสเลือดได้ไม่สมบูรณ์ จะเกิดการตกค้างและกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ
8. ตับโต ตับที่บวมโตมากกว่าปกติเป็นความผิดปกติ ต้องวินิจฉัยร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น เนื้องอก หรืออาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันอื่น ๆ
9. เป็นท้องมาน เกิดจากความผิดปกติในหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลืองทำให้มีของเหลวคั่งในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ
10. เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี โรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี ควรตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง และหมั่นดูแลสุขภาพอยู่เสมอ
มะเร็งตับ เปรียบเสมือน “มฤตยูเงียบ” เป็นเนื้องอกมะเร็งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากเนื้อเยื่อในตับอย่างเซลล์ตับ ท่อน้ำดี หรือต่อมน้ำเหลือง และที่เนื้องอกมะเร็งที่เกิดจากบริเวณอื่นๆ แล้วลุกลามแพร่กระจายมายังตับได้ โดยอาจเริ่มจากระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ และเต้านม เป็นต้น เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้ชาย และอันดับ 2 ในผู้หญิง ถ้าเป็นในระยะแรกสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มักจะไม่แสดงอาการที่ชัดเจนแต่จะมีอาการคลุมเครือเช่น เสียดท้องด้านขวา มีอาการจุกแน่นในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แทบไม่มีอาการอะไรเลย เพราะตับเป็นอวัยวะที่มีกำลังสำรองและเป็นอวัยวะที่มีความสามารถในการฟื้นตัวได้ดีมากที่สุด หน้าที่ของตับจะมีประมาณ 30% ของระบบการทำงานของอวัยวะในร่างกาย เมื่อรู้ก็อยู่ในระยะลุกลามหรือมีขนาดใหญ่และไม่สามารถจะรักษาได้แล้ว
อาการของโรคมะเร็งตับ
โรคมะเร็งตับ เป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณหรืออาการที่ชัดเจนในระยะเริ่มแรก กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปจนถึงขั้นที่ไม่สามารถทำการรักษาได้แล้ว แต่อาจมีอาการแสดงออก คือ น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่รู้สึกอยากอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บท้องส่วนบน หรือปวดชายโครงด้านขวาร่วมกับคลำพบก้อนเนื่องจากตับมีขนาดโตขึ้น นอกจากนี้อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ดีซ่าน อุจจาระสีซีดลง อ่อนแรงและเหนื่อยง่าย เป็นต้น โดยเมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการแสดงดังนี้
– รู้สึกเสียดท้อง หรือปวดชายโครงด้านขวา และอาจร้าวไปยังไหล่หรือลำตัวซีกขวา
– มีอาการจุกเสียดแน่นในบางครั้ง
– เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
– รู้สึกอ่อนเพลีย
– อาจคลำพบก้อนเนื้อที่บริเวณชายโครง
– รู้สึกเสียดท้อง หรือปวดชายโครงด้านขวา และอาจร้าวไปยังไหล่หรือลำตัวซีกขวา
– มีอาการจุกเสียดแน่นในบางครั้ง
– เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
– รู้สึกอ่อนเพลีย
– อาจคลำพบก้อนเนื้อที่บริเวณชายโครง
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ
1. ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากไวรัสตับอักเสบบีและซี มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็น มะเร็งมากกว่าคนปกติถึง 223 เท่า
2. 90% ของผู้ป่วยโรค มะเร็งตับจะมีตับแข็งร่วมด้วย แสดงว่าผู้ที่เป็นพาหะตับอักเสบบีและมีตับแข็งแล้ว ความเสี่ยงจะสูงมากๆ
3. ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็น มะเร็งตับ สูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
4. สารอะฟลาท๊อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งพบปนเปื้อนอยู่ในถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ ก็เป็นสารก่อมะเร็งและเป็นตัวเสริม
2. 90% ของผู้ป่วยโรค มะเร็งตับจะมีตับแข็งร่วมด้วย แสดงว่าผู้ที่เป็นพาหะตับอักเสบบีและมีตับแข็งแล้ว ความเสี่ยงจะสูงมากๆ
3. ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็น มะเร็งตับ สูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
4. สารอะฟลาท๊อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งพบปนเปื้อนอยู่ในถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ ก็เป็นสารก่อมะเร็งและเป็นตัวเสริม
การวินิจฉัยและตรวจหามะเร็งตับ
การเฝ้าระวังจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการที่จะเป็นมะเร็งตับ คือ ผู้ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไปและมีอาการตับแข็งร่วมด้วยควรจะต้องตรวจร่างกายอย่างน้อยทุก 6 เดือน
วิธีรักษา มะเร็งตับ
หากตรวจพบในระยะแรก ๆ ก็มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ เช่น
1. การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก โดยมีเงื่อนไขว่าก้อนมะเร็งนั้นมีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร เป็นมะเร็งก้อนเดียว มีเปลือกห่อหุ้ม และอยู่ภายในตับกลีบเดียว วิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
2. วิธีรักษาแบบ TOCE นี้มักจะกระทำโดยรังสีแพทย์ โดยการสอดสายขนาดเล็กเข้าไปทางเส้นเลือดแดงตับ เพื่อเข้าไปถึงก้อนมะเร็งโดยตรงเพื่อใส่ยาเคมีเข้าไปที่ก้อนมะเร็ง พร้อมทั้งอุดเส้นเลือดหลักที่เข้าไปเลี้ยงก้อนมะเร็งด้วยในเวลาเดียวกัน อาจได้ผลอยู่บ้างแต่ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้
3. การใช้คลื่นเสียง RFA ฉีดแอลกอฮอล์โดยตรงที่ก้อนมะเร็ง เป็นวิธีการทำลายก้อนมะเร็งด้วยการใช้เข็มแบบพิเศษ (RF needle)
4. การเปลี่ยนตับ มักมีข้อจำกัดมากมาย ทำให้การเปลี่ยนถ่ายตับมักไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการรักษา
5. การฉายรังสี วิธีการนี้ไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตับที่ดี มักมีผลเสียจากฉายรังสี
วิธีรักษา มะเร็งตับ
หากตรวจพบในระยะแรก ๆ ก็มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ เช่น
1. การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก โดยมีเงื่อนไขว่าก้อนมะเร็งนั้นมีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร เป็นมะเร็งก้อนเดียว มีเปลือกห่อหุ้ม และอยู่ภายในตับกลีบเดียว วิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
2. วิธีรักษาแบบ TOCE นี้มักจะกระทำโดยรังสีแพทย์ โดยการสอดสายขนาดเล็กเข้าไปทางเส้นเลือดแดงตับ เพื่อเข้าไปถึงก้อนมะเร็งโดยตรงเพื่อใส่ยาเคมีเข้าไปที่ก้อนมะเร็ง พร้อมทั้งอุดเส้นเลือดหลักที่เข้าไปเลี้ยงก้อนมะเร็งด้วยในเวลาเดียวกัน อาจได้ผลอยู่บ้างแต่ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้
3. การใช้คลื่นเสียง RFA ฉีดแอลกอฮอล์โดยตรงที่ก้อนมะเร็ง เป็นวิธีการทำลายก้อนมะเร็งด้วยการใช้เข็มแบบพิเศษ (RF needle)
4. การเปลี่ยนตับ มักมีข้อจำกัดมากมาย ทำให้การเปลี่ยนถ่ายตับมักไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการรักษา
5. การฉายรังสี วิธีการนี้ไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตับที่ดี มักมีผลเสียจากฉายรังสี
การดูแลและป้องกันมะเร็งตับ
+ ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีแก่เด็กทุกราย
+ ควรตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ชนิดซี และควรฉีดยาป้องกันภูมิต้านทานไวรัสไว้ด้วย
+ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
+ ลดสาร aflatoxin โดยการเน้นการเก็บอาหารให้แห้งเพื่อลดปริมาณ aflatoxin
+ ไม่ทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาดิบ ก้อยปลา เพราะอาจจะทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ
+ไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อราอัลฟาทอกซิน รวมทั้งอาหารที่เตรียมแล้วเก็บค้างคืน
+ ไม่รับประทานอาหารซ้ำ ๆ หรืออาหารที่ใส่ยากันบูด
+ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุก 5 หมู่ ให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
+ ควรตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ชนิดซี และควรฉีดยาป้องกันภูมิต้านทานไวรัสไว้ด้วย
+ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
+ ลดสาร aflatoxin โดยการเน้นการเก็บอาหารให้แห้งเพื่อลดปริมาณ aflatoxin
+ ไม่ทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาดิบ ก้อยปลา เพราะอาจจะทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ
+ไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อราอัลฟาทอกซิน รวมทั้งอาหารที่เตรียมแล้วเก็บค้างคืน
+ ไม่รับประทานอาหารซ้ำ ๆ หรืออาหารที่ใส่ยากันบูด
+ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุก 5 หมู่ ให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
อาหารช่วยต้าน.. มะเร็งตับ
+ ทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย เช่น ไข่ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ธัญพืชชนิดไม่ขัดสี ในปริมาณที่เหมาะสมทุกมื้อ
+ เลือกทานผักใบเขียวได้ทุกชนิด โดยเฉพาะผักที่มีเส้นใยไม่สูงนัก เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว หรือผักบุ้งจีน เพื่อช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
+ ดื่มน้ำหวานเพื่อเพิ่มความสดชื่นและป้องกันร่างกายอ่อนเพลีย ในขณะที่น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
+เลือกรับประทานผลไม้สดเป็นประจำ หรือน้ำผลไม้แบบปั่นสด
+ เลือกทานอาหารสด สะอาด และปรุงสุกเสมอ
+ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานอาหารรสจัด
การดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างการเลือกรับประทานอาหารนั้น ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง สุขภาพดี ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งตับได้ และการใช้ศาสตร์เอนไซม์บำบัดทานเสริมเพื่อช่วยป้องกันและฟื้นฟูในช่วงการเกิดมะเร็งระยะเริ่มต้น จะทำให้การย่อยอาหาร การขจัดสารพิษสะสมในร่างกายลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งในทางเลือกหลายๆทางที่สามารถเติมได้จากการทานเสริมจากภายนอกได้เช่นกัน
เริ่มสำรวจพฤติกรรมการเลือกทานอาหาร สารอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ระบบภายในของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยังช่วยลดความเสี่ยงและปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย การทานผักผลไม้ที่สะอาดปราศจากสารพิษและเชื้อราอัลฟาท๊อกซินด้วยการล้างให้สะอาดก่อนทาน จะเป็นตัวช่วยที่ดีกับการดูแลสุขภาพ
+ เลือกทานผักใบเขียวได้ทุกชนิด โดยเฉพาะผักที่มีเส้นใยไม่สูงนัก เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว หรือผักบุ้งจีน เพื่อช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
+ ดื่มน้ำหวานเพื่อเพิ่มความสดชื่นและป้องกันร่างกายอ่อนเพลีย ในขณะที่น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
+เลือกรับประทานผลไม้สดเป็นประจำ หรือน้ำผลไม้แบบปั่นสด
+ เลือกทานอาหารสด สะอาด และปรุงสุกเสมอ
+ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานอาหารรสจัด
การดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างการเลือกรับประทานอาหารนั้น ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง สุขภาพดี ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งตับได้ และการใช้ศาสตร์เอนไซม์บำบัดทานเสริมเพื่อช่วยป้องกันและฟื้นฟูในช่วงการเกิดมะเร็งระยะเริ่มต้น จะทำให้การย่อยอาหาร การขจัดสารพิษสะสมในร่างกายลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เป็นหนึ่งในทางเลือกหลายๆทางที่สามารถเติมได้จากการทานเสริมจากภายนอกได้เช่นกัน
เริ่มสำรวจพฤติกรรมการเลือกทานอาหาร สารอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ระบบภายในของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยังช่วยลดความเสี่ยงและปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย การทานผักผลไม้ที่สะอาดปราศจากสารพิษและเชื้อราอัลฟาท๊อกซินด้วยการล้างให้สะอาดก่อนทาน จะเป็นตัวช่วยที่ดีกับการดูแลสุขภาพ
สนับสนุนโดย...แอนซิม่า (Anzima) เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติค
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
สนใจติดต่อ..
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
สนใจติดต่อ..
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สอบถาม/สั่งซื้อ
|