เบาหวานเป็นจุดเริ่มต้นของโรคแทรกซ้อนที่อันตรายมาก!!
คุณเคยมีอาการแบบนี้หรือไม่?
• ปัสสาวะบ่อยและมาก ปัสสาวะกลางคืน
• คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก
• หิวบ่อย รับประทานจุแต่น้ำหนักลดลง และมีอาการอ่อนเพลีย
• ถ้าเป็นแผลจะหายยาก มีการติดเชื้อตามผิวหนังบ่อย
• ติดเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณช่องคลอด
• ตาพร่ามัว
• ชาปลายมือ ปลายเท้า
• ปัสสาวะบ่อยและมาก ปัสสาวะกลางคืน
• คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก
• หิวบ่อย รับประทานจุแต่น้ำหนักลดลง และมีอาการอ่อนเพลีย
• ถ้าเป็นแผลจะหายยาก มีการติดเชื้อตามผิวหนังบ่อย
• ติดเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณช่องคลอด
• ตาพร่ามัว
• ชาปลายมือ ปลายเท้า
โรคเบาหวาน
คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ เป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมน “อินซูลิน” หรือประสิทธิภาพของ “อินซูลิน” ลดลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ตามปกติ แยกออกเป็น 2 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 คือเบาหวานอายุน้อย จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน ตับอ่อนจะหยุดผลิตอินซูลิน เนื่องจากเชื้อไวรัสไปทำลายเซลล์ตับอ่อน หรือภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ร่างกายจะโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ทำให้เซลล์ในร่างกายไม่ได้รับกลูโคส
จนเริ่มสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมันเพื่อนำมาเป็นพลังงาน
ชนิดที่ 2 คือ อ้วนลงพุง ไม่สามารถเอาอินซูลินไปใช้ได้อย่างเหมาะสม อาการจะเริ่มเป็นมากขึ้นทีละน้อย เนื่องจากภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำหนักลดอย่างไม่ชัดเจนมากนัก
คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ เป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมน “อินซูลิน” หรือประสิทธิภาพของ “อินซูลิน” ลดลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ตามปกติ แยกออกเป็น 2 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 คือเบาหวานอายุน้อย จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน ตับอ่อนจะหยุดผลิตอินซูลิน เนื่องจากเชื้อไวรัสไปทำลายเซลล์ตับอ่อน หรือภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ร่างกายจะโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ทำให้เซลล์ในร่างกายไม่ได้รับกลูโคส
จนเริ่มสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมันเพื่อนำมาเป็นพลังงาน
ชนิดที่ 2 คือ อ้วนลงพุง ไม่สามารถเอาอินซูลินไปใช้ได้อย่างเหมาะสม อาการจะเริ่มเป็นมากขึ้นทีละน้อย เนื่องจากภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำหนักลดอย่างไม่ชัดเจนมากนัก
สาเหตุอาการโรคเบาหวานเบื้องต้น
1. เข้าห้องน้ำบ่อยมากขึ้น
รู้สึกเหมือนต้องการปัสสาวะทั้งวัน ซึ่งการถ่ายปัสสาวะจะบ่อยขึ้นหากมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินไป หากไม่มีฮอร์โมนอินซูลิน หรือมีแต่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ไตจะไม่สามารถกรองเอากลูโคสกลับเข้าไปในกระแสเลือดได้ จึงต้องพยายามดึงน้ำออกจากเลือดเพื่อเจือจางกลูโคส ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มและทำให้คุณต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
2. ความกระหายน้ำที่ไม่อาจบรรเทาได้
ถ้ารู้สึกหิวน้ำจนต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ และรู้สึกว่าดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ไม่พอ อาจเป็นสัญญาณเตือนของเบาหวานได้ โดยเฉพาะหากมีอาการปัสสาวะบ่อยร่วมด้วย เนื่องจากเมื่อร่างกายต้องขับน้ำออกจากกระแสเลือดเป็นปริมาณมากจนคุณต้อง เข้าห้องน้ำบ่อย คุณจะมีภาวะขาดน้ำ และรู้สึกว่าจำเป็นต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป
3. น้ำหลักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ
อาการนี้จะเด่นชัดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ตับอ่อนจะหยุดผลิตอินซูลิน อาจเนื่องมาจากการที่มีเชื้อไวรัสไปทำลายเซลล์ตับอ่อน หรือเกิดจากการที่มีภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ทำให้ร่างกายโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ร่างกายจะพยายามแสดงหาแหล่งพลังงานอื่นๆอย่างหนักเนื่องจากเซลล์ในร่างกายไม่ได้รับกลูโคส จนกระทั่งเริ่มสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมันเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ในขณะที่เบาหวานชนิดที่ 2 อาการจะเริ่มเป็นมากขึ้นทีละน้อยเนื่องจากภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำหนักลดอย่างไม่ชัดเจนมากนัก
4. อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ปกติกลูโคสที่ได้รับจากการกินอาหารจะดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด อินซูลินจะช่วยเคลื่อนย้ายกลูโคสเข้าไปในเซลล์ต่างๆ เพื่อให้ร่างกายนำไปผลิตพลังงานที่ใช้ในการดำรงชีวิต เมื่อขาดอินซูลินหรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน กลูโคส่จะอยู่ในกระแสเลือดนอกเซลล์ เซลล์ร่างกายก็จะขาดแคลนพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยง่ายและร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ
5. มีอาการเหน็บชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มบริเวณมือ ขา หรือเท้า
อาการ นี้เรียกว่าเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งจะเป็นมากขึ้นทีละน้อย เนื่องจากกลูโคสในกระแสเลือดที่สูงเกินไปตลอดเวลาจะทำให้ระบบประสาทเสียหาย รวมทั้งบริเวณแขนขาด้วย ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป บ่อยครั้งที่อาการเส้นประสาทอักเสบสามารถดีขึ้นได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาล กลูโคสในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายอย่างเคร่งครัด
1. เข้าห้องน้ำบ่อยมากขึ้น
รู้สึกเหมือนต้องการปัสสาวะทั้งวัน ซึ่งการถ่ายปัสสาวะจะบ่อยขึ้นหากมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินไป หากไม่มีฮอร์โมนอินซูลิน หรือมีแต่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ไตจะไม่สามารถกรองเอากลูโคสกลับเข้าไปในกระแสเลือดได้ จึงต้องพยายามดึงน้ำออกจากเลือดเพื่อเจือจางกลูโคส ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มและทำให้คุณต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
2. ความกระหายน้ำที่ไม่อาจบรรเทาได้
ถ้ารู้สึกหิวน้ำจนต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ และรู้สึกว่าดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ไม่พอ อาจเป็นสัญญาณเตือนของเบาหวานได้ โดยเฉพาะหากมีอาการปัสสาวะบ่อยร่วมด้วย เนื่องจากเมื่อร่างกายต้องขับน้ำออกจากกระแสเลือดเป็นปริมาณมากจนคุณต้อง เข้าห้องน้ำบ่อย คุณจะมีภาวะขาดน้ำ และรู้สึกว่าจำเป็นต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป
3. น้ำหลักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ
อาการนี้จะเด่นชัดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ตับอ่อนจะหยุดผลิตอินซูลิน อาจเนื่องมาจากการที่มีเชื้อไวรัสไปทำลายเซลล์ตับอ่อน หรือเกิดจากการที่มีภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ทำให้ร่างกายโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ร่างกายจะพยายามแสดงหาแหล่งพลังงานอื่นๆอย่างหนักเนื่องจากเซลล์ในร่างกายไม่ได้รับกลูโคส จนกระทั่งเริ่มสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมันเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ในขณะที่เบาหวานชนิดที่ 2 อาการจะเริ่มเป็นมากขึ้นทีละน้อยเนื่องจากภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำหนักลดอย่างไม่ชัดเจนมากนัก
4. อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ปกติกลูโคสที่ได้รับจากการกินอาหารจะดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด อินซูลินจะช่วยเคลื่อนย้ายกลูโคสเข้าไปในเซลล์ต่างๆ เพื่อให้ร่างกายนำไปผลิตพลังงานที่ใช้ในการดำรงชีวิต เมื่อขาดอินซูลินหรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน กลูโคส่จะอยู่ในกระแสเลือดนอกเซลล์ เซลล์ร่างกายก็จะขาดแคลนพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยง่ายและร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ
5. มีอาการเหน็บชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มบริเวณมือ ขา หรือเท้า
อาการ นี้เรียกว่าเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งจะเป็นมากขึ้นทีละน้อย เนื่องจากกลูโคสในกระแสเลือดที่สูงเกินไปตลอดเวลาจะทำให้ระบบประสาทเสียหาย รวมทั้งบริเวณแขนขาด้วย ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป บ่อยครั้งที่อาการเส้นประสาทอักเสบสามารถดีขึ้นได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาล กลูโคสในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายอย่างเคร่งครัด

เบาหวานเป็นจุดเริ่มของโรคแทรกซ้อนที่อันตรายมาก!!
ต้องหมั่นสังเกตอาการ "เท้าชา" "มือชา" โรคแทรกซ้อนเฉียบพลันและเรื้อรังของผู้ป่วยเบาหวาน มักจะเกิดเมื่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมาก เกิดจากการควบคุมเบาหวานไม่ดี
ถ้ามีการติดเชื้อเป็นตัวกระตุ้น อาการของเบาหวานจะรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยอาจจะซึม จนกระทั่งหมดสติ บางรายมีอาการชักกระตุกเฉพาะที่ ถ้ามีภาวะเลือดเป็นกรดร่วมด้วย ผู้ป่วยจะหายใจหอบ และถ้ามีแผลแล้วผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวและไม่ดูแลแผลดังกล่าว การมีน้ำตาลในเลือดสูงจึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเหล่าเชื้อโรค ทำให้แผลเน่าจนนำไปสู่การถูกตัดอวัยวะในที่สุด สำหรับผู้ชายอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย
ต้องหมั่นสังเกตอาการ "เท้าชา" "มือชา" โรคแทรกซ้อนเฉียบพลันและเรื้อรังของผู้ป่วยเบาหวาน มักจะเกิดเมื่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมาก เกิดจากการควบคุมเบาหวานไม่ดี
ถ้ามีการติดเชื้อเป็นตัวกระตุ้น อาการของเบาหวานจะรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยอาจจะซึม จนกระทั่งหมดสติ บางรายมีอาการชักกระตุกเฉพาะที่ ถ้ามีภาวะเลือดเป็นกรดร่วมด้วย ผู้ป่วยจะหายใจหอบ และถ้ามีแผลแล้วผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวและไม่ดูแลแผลดังกล่าว การมีน้ำตาลในเลือดสูงจึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเหล่าเชื้อโรค ทำให้แผลเน่าจนนำไปสู่การถูกตัดอวัยวะในที่สุด สำหรับผู้ชายอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย
โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
1. โรคหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
2. อัมพฤกษ์และอัมพาตจากหลอดเลือดสมองอุดตัน
3. โรคความดันโลหิตสูง
4. ปวดน่องเวลาเดินนาน ๆ จากหลอดเลือดที่ขาตีบ หรือเกิดแผลจากขาดเลือด
5. โรคแทรกซ้อนทางตา เช่น อาการตามัว เบาหวานขึ้นตา
6. โรคแทรกซ้อนทางไต ทำให้ไตเสื่อม ไตวาย
7. โรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท ทีอาการชาตามเท้าและมือ หรืออาจมีอาการปวดก็ได้
1. โรคหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
2. อัมพฤกษ์และอัมพาตจากหลอดเลือดสมองอุดตัน
3. โรคความดันโลหิตสูง
4. ปวดน่องเวลาเดินนาน ๆ จากหลอดเลือดที่ขาตีบ หรือเกิดแผลจากขาดเลือด
5. โรคแทรกซ้อนทางตา เช่น อาการตามัว เบาหวานขึ้นตา
6. โรคแทรกซ้อนทางไต ทำให้ไตเสื่อม ไตวาย
7. โรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท ทีอาการชาตามเท้าและมือ หรืออาจมีอาการปวดก็ได้
การดูแลและป้องกัน
ในระยะยาว..ความเสื่อมของร่างกายและอวัยวะต่างๆ การควบคุมอาการของโรคเบาหวานทำได้ยาก การควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี อาจต้องใช้ยาเพิ่มขึ้น ควรลดทานแป้งและน้ำตาลให้น้อยลง เลือกทานอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เพิ่มอาหารกลุ่มไฟเบอร์จากพืชผักและผลไม้ การเลือกทานสมุนไพรจากธรรมชาติที่มีผลในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การเลือกทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควบคู่ไปกับการตรวจตามนัดของแพทย์
ในระยะยาว..ความเสื่อมของร่างกายและอวัยวะต่างๆ การควบคุมอาการของโรคเบาหวานทำได้ยาก การควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี อาจต้องใช้ยาเพิ่มขึ้น ควรลดทานแป้งและน้ำตาลให้น้อยลง เลือกทานอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เพิ่มอาหารกลุ่มไฟเบอร์จากพืชผักและผลไม้ การเลือกทานสมุนไพรจากธรรมชาติที่มีผลในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การเลือกทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควบคู่ไปกับการตรวจตามนัดของแพทย์
นวัตกรรมใหม่ในการรักษาสุขภาพ ENZYME THERAPY INNOVATION
เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีจำนวนจำกัด หากคุณต้องการมีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดี ตัวคุณต้องรักษาระดับเอนไซน์ในร่างกายให้สมดุล กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่สุขภาพที่สมดุลนั้น ก็คือ เอนไซน์
เอนไซน์เปรียบเสมือนกุญแจแห่งชีวิตที่เสริมสร้าง ซ่อมแซม ต้านทานโรค และป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีจำนวนจำกัด หากคุณต้องการมีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดี ตัวคุณต้องรักษาระดับเอนไซน์ในร่างกายให้สมดุล กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่สุขภาพที่สมดุลนั้น ก็คือ เอนไซน์
เอนไซน์เปรียบเสมือนกุญแจแห่งชีวิตที่เสริมสร้าง ซ่อมแซม ต้านทานโรค และป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
ประสบการณ์ผู้ใช้เอนไซม์บำบัด
สนับสนุนโดย...แอนซิม่า (Anzima) เอนไซม์จากจุลินทรีย์โปรไบโอติค
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
สนใจติดต่อ..
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
"กุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดี"
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอนซิม่า เหมือนกันกับการเติมน้ำให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อให้เรียบเสมอกัน ช่วยในการชะลอวัย ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าอายุที่แท้จริง ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ
· กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับอาหาร และออกซิเจนเต็มที่
· ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
· ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพภูมิต้านทานต้านเชื้อไวรัส
· ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์
สนใจติดต่อ..
Call center : โทร. 088-536-2211 088-536-3322 088-536-4433 02-444-6544
ID line : Enzyme.co.th
Follow LINE Official ID @jqk0152o : https://bit.ly/2KuayDT
Follow Fanpage Biowist.co.th : https://bit.ly/2w61GRN
Follow Instagram enzymebiowist : https://bit.ly/2Ig6qcm
สอบถาม/สั่งซื้อ
|